Monday, June 11, 2012

ใหม่







พี่เคยเป็นรึเปล่าครับ ในวันที่อากาศดี มีแสงแดดจ้าแบบไม่ร้อนมาก แล้วอยู่บ้านเฉยๆไม่มีภาระกิจอะไรต้องทำ อยู่ดีๆเราจะมีความคิดที่ว่า ถึงเวลาที่ต้องเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ซะที ผมเป็นบ่อยมาก

ผมรู้สึก ว่าถ้าเกิดผมจะมีความสุขอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องที่เกี่ยวกับการกิน การฟัง การได้เห็น การได้ลงมือทำ ปัจจัยแรกที่มันจะทำให้ผมรู้สึกดีได้นั้น อย่างแรก ผมจะต้องรู้สึกว่า ผมไม่เคยทำมันมาก่อน(หรือเคยทำไปแล้ว แต่จำความรู้สึกไม่ได้) ยกตัวอย่างแรก อาหาร ทุกๆวันผมอยากจะกินอาหารใหม่ๆ เพื่อให้ได้ความรู้สึกใหม่ๆ ถึงแม้ว่าบางอย่างจะเคยกินไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรถ้ามันเป็นความรู้สึกใหม่

เพลงในแต่ละวัน ผมก็จะพยายามฟังเพลงใหม่ๆ ไม่ใช่ว่าใหม่แค่เพราะว่ามันใหม่ แต่ว่าใหม่ในความรู้สึกของผม อาจจะเป็นเพลงเดิมที่ฟังซ้ำๆแล้วหลายครั้ง แต่อยากจะรู้สึกถึงมันใหม่

ครั้งแรกที่มาที่ซีแอตเทิล ผมรู้สึกตื่นเต้นกับสถานที่เป็นอย่างมาก และเวลาที่ผมรู้สึกว่า ผมอยู่ในที่ๆผมยังไม่คุ้น มันจะมีความรู้สึกเล็กๆซ่อนอยู่ข้างในตัวผม ประมาณว่า " เฮ้ย มันน่าตื่นเต้นหว่ะ มันมีอะไรที่เรายังไม่รู้และไม่เห็น " และทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วงนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งไม่ค่อยดี แต่มันก็ยังรู้สึกดี เพราะเรายังเห่อสถานที่อยู่ เหมือนกับเวลาเราต้องย้ายบ้านหรือย้ายที่ทำงาน พี่เคยเป็นมั้ยครับ พอย้ายมาใหม่ๆแล้ว อะไรๆก็ดูตื่นเต้นไปหมด สภาพแวดล้อมใหม่ เพื่อนใหม่ ต้นไม้ใหม่ ตึกรูปร่างแปลกใหม่ สายลมพัดแบบใหม่ๆ  แต่พออยู่ไปนานๆ พอเราชินกับทุกๆอย่าง เราจะเริ่มเบื่อและคิดอยากจะทำสิ่งที่ต่างออกไปอีก

ถ้ามีเวลา ผมจะหาทางที่ทำให้ตัวเองไปเห็นสิ่งใหม่ๆ บางทีผมจะขับรถไปเรื่อยๆ(ถ้ามีตังค์เติมน้ำมัน) หรือไปเดินเล่นในที่ใหม่ๆที่ผมยังไม่เคยไป มันไม่จำเป็นว่าต้องหรูหรา แค่ได้บรรยากาศ หรือถ้าต้องอยู่บ้าน ผมจะหาสิ่งใหม่ๆทำ (อาจจะเป็นสิ่งเดิมๆ แต่ทำใหม่) เช่น เขียนอะไรใหม่ แต่งห้องใหม่ หรือ อะไรก็ได้ใหม่ อย่างน้อยหนึ่งอย่าง เช่น ปะรูในถุงเท้า หรือว่า เอาถังขยะไปตากแดด มันดีนะพี่ และผมว่ามันจำเป็น มันยังทำให้ผมรู้สึกว่า " โอเค ชีวิตมันต้องเป็นแบบนี้ดิวะ! " หรืออะไรประมาณนั้น

Sunday, June 10, 2012

"ดอกไม้ที่ไม่มีชื่อ" - กู้ เฉิง







      ต้นพ็อพล่าร์


      เวลาฉันสูญเสียแขน

      ฉันเปิดตา






      ดอกไม้ที่ไม่มีชื่อ

      ดอกไม้ป่า

      จุดดวงดาว

      เฉกเช่นกระดุม

      ที่หล่นหายอยู่ข้างทาง


      พวกมันไม่มีของดอกเก็กฮวย

      ลายพาดสีทอง

      ไม่มีของดอกโบตั๋น

      ความอ่อนโยน


      พวกมันมีแค่ดอกไม้เล็กๆ

      และใบที่อ่อนแอ

      พัดโชยกลิ่นไอบางๆ

      ไปในฤดูใบไม้ผลิที่สวยงาม


      กลอนของฉัน

      เหมือนกับดอกไม้ที่ไม่มีชื่อ

      ตามสายลมและสายฝนของฤดู

      ค่อยๆบานอยู่เงียบๆ

      ในโลกที่เดียวดายของผู้คน





      ถึงแอนเดอร์สัน

      
      เม็ดทรายสีทอง

      ได้ฝังเรื่องราวต่างๆของเธอ

      ไปพร้อมกับ

      รอยยิ้มและน้ำตาของฉัน ที่ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
      
      
      ฉันเชื่อ

      ว่าเราคือเมล็ดพันธุ์

      เราต้องตายก่อน

      เราถึงจะมีชีวิต


      เมื่อฉันกลับมา

      พร้อมกับหน้าผาหิมะสีขาว

      ทะเลทรายจะกลาย

      เป็นโลกแห่งมรกต


      ฉันอยากจะแผ่นอนอยู่ตรงนั้น

      บนหมู่ดอกไม้และหยาดน้ำค้าง

      รำลึงถึงความรู้สึกต่างๆ

      ที่ฉันมีเมื่อครั้งเยาว์วัย
     

     

       การหลีกเลี่ยง


       เธอไม่อยากที่จะปลูกดอกไม้

       เธอเอ่ย

       " ฉันไม่อยากเห็นมันค่อยๆแห้งเหี่ยวเฉา "

       ใช่


       เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงจุดจบ

       เธอหลีกเลี่ยงทุกการเริ่มต้น




    ฉันเป็นเด็กเอาแต่ใจ


    อาจจะเป็นไปได้

    ฉันคือเด็กน้อยที่ถูกมารดาตามใจ

    ฉันนั้นช่างเอาแต่ใจ

    ฉันหวัง

    ว่าทุกช่วงเวลา

    นั้นเต็มไปด้วยสีสันเช่นดินสอสี

    ฉันหวัง

    ว่าฉันสามารถวาดลงบนกระดาษ

    อิสระภาพที่แปลกประหลาด

    วาดดวงตา

    ที่ไม่มีวันร้องไห้

    ท้องฟ้า

    ขนนกและใบไม้ ที่อาศัยอยู่บนเวหา

    ยามเย็นสีเขียวอ่อน และลูกแอปเปิ้ล


    ฉันอยากจะวาดรุ่งอรุณ

    วาดน้ำค้าง

    รอยยิ้มมากมายที่ฉันเห็น

   ฉันอยากจะวาด

   ความรักแบบเด็กๆที่ไม่เจ็บปวด

   วาดในจินตนาการ

   คนรักของฉัน

   เธอไม่เคยได้เห็นท้องฟ้าที่มืดครึ้มเลย

   ดวงตาของเธอยังคงเป็นสีฟ้าใส

   เธอจะคอยจ้องมองฉันตลอดเวลา

   มองอยู่ ตลอดเวลา

   ไม่มีทางจะเมินหน้าหนี


   ฉันอยากจะวาดทิวทัศน์ที่กว้างไกล

   วาดเส้นขอบฟ้าและเกลียวคลื่น

   วาดหมู่ลำธารที่มีความสุข

   วาดเนินเขาเล็กๆ

   ที่ผุดงอกออกมา

   ฉันจะเอามันมารวมกัน

   ให้มันรักกัน

   ให้มันปรับตัวเข้าหากัน

   ให้ฤดูใบไม้ผลิที่เคลื่อนตัวอย่างไร้เสียง

    เป็นจุดกำเนิดของดอกไม้ดอกน้อยๆ


     และฉันอยากจะวาดอนาคต

     ฉันไม่เคยเห็นเธอ และคงไม่มีวัน

     แต่ฉันรู้ว่าเธอนั้นช่างสวยงาม

     ฉันจะวาดเสื้อกันลมฤดูใบไม้ร่วงของเธอ

     วาดเปลวเทียนและใบเมเปิล

    วาดดวงใจหลายๆดวงที่พองออกมา

     เพื่อความรักของเธอ

     วาดการสมรส

     วาดวันหยุดพิเศษ ที่จะคอยมาเรื่อยๆ

     หมู่ลูกกวาดแท่งไว้ด้านบน

     และภาพต่างๆจากหนังสือนิทาน


     ฉันช่างเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ

     ฉันอยากจะลบความทุกข์ทั้งหลายแหล่ให้หมดสิ้น

     ฉันอยากจะวาดหน้าต่าง

     ให้เต็มไปทั่วทั้งผืนแผ่นดิน

     ให้ดวงตาที่ชินกันความมืดมิด

     ชินกับแสงสว่าง

     ฉันอยากจะวาดสายลม

     วาดหมู่เทือกเขาที่ทอดยาวสูงขึ้นเรื่อยๆ

     วาดความโหยหาของผู้คนในแทบตะวันออก

     วาดมหาสมุทร

     เสียงของความสุขที่ดังไม่มีหยุด

     สุดท้าย ที่มุมของกระดาษ

     ฉันอยากจะวาดตัวฉันเอง

     วาดหมีโคล่า

     ลึกในป่าวิกตอเรีย

     กำลังนั้งบนกิ่งไม่นิ่ง

     ช้า

     ไม่มีบ้าน

     ไม่มีใจที่เหม่อลอย

     มีแค่เพียง

     เหล่าความฝันลูกเบอร์รี่

     และดวงตาใหญ่โต


     ฉันได้แต่หวัง

     ต้องการ

     แต่ไม่รู้ทำไม

     ฉันไม่มีดินสอสี

     ไม่เคยมีช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสีสันเลย

      ฉันมีแค่ฉัน

      นิ้วมือและความเจ็บปวด

      จากการสร้างสรรค์

      เศษกระดาษโทรมๆ

      ให้มันออกไปตามหาผีเสื้อเถอะ

      ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

      ให้มันออกไปจากที่แห่งนี้ซะ


      ฉันเป็นเด็กน้อย

      ที่ถูกตามใจจากมารดาในจินตนาการ

      ฉันช่างเอาแต่ใจ


--------------------------






อ่านประวัติของกู้ เฉิงได้ที่ บล็อคของ ซะการีย์ยา อมตะยา

กลอนทั้งหมดแปลมาจากเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของ Aaron Crippen
แปลเป็นไทย โดย วุฒิพงษ์ มหาสมุทร